วันอาทิตย์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2558
วิจัยต้นไม้สร้างนวัตกรรมสวนแนวตั้ง
วิจัยต้นไม้สร้างนวัตกรรมสวนแนวตั้ง | เดลินิวส์
วิจัยต้นไม้สร้างนวัตกรรมสวนแนวตั้ง ในการปลูกพืชแนวตั้งแรก ๆ พบปัญหาคือต้นไม้ตาย เจริญเติบโตได้ไม่ดี และมีพันธุ์ไม้ให้เลือกน้อยไม่แปลกใหม่ ทำให้ต้องเริ่มมองหาผู้เชี่ยวชาญมาแก้ปัญหาดังกล่าว โดยได้ปรึกษากับทางไบโอเทค ซึ่งมีความรู้และเชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์คุณลักษณะของพืช
วันพุธที่ 3 ธันวาคม 2557 เวลา 3:19 น.
ปัญหาโลกร้อนผนวกกับไลฟ์สไตล์ชีวิตคนทำงานในเมืองที่เร่งรีบและมีพื้นที่สีเขียวลดน้อยลง ทำให้สวนแนวตั้งธุรกิจแนวใหม่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ
แต่การจะทำให้ต้นไม้เจริญเติบโตได้ในสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป ไม่เหมือนในธรรมชาตินั้น หลายคนคงไม่รู้ว่าจำเป็นต้องใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ที่ต้องมีทั้ง “ความสวย ทนทาน และดูแลรักษาง่าย”
ทำให้เกิดเป็น “นวัตกรรมสวนแนวตั้ง” ที่บริษัท เอสซีจี ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง จํากัด ร่วมกับศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) พัฒนาขึ้น
“ดร.พิศิษฐ์ เกษี” วิศวกรใหญ่ วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี ของเอสซีจี ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง บอกว่า เอสซีจีได้พัฒนาผลิตภัณฑ์สวนแนวตั้งขึ้น โดยเรียกว่า โมดูลาร์ กรีน ช่วยให้พื้นที่เล็ก ๆ ของบ้านหรืออาคารสำนักงานเป็นพื้นที่สีเขียว โดยติดตั้งง่ายและสะดวกในการดูแลรักษา ดร.พิศิษฐ์ บอกว่า ในการปลูกพืชแนวตั้งแรก ๆ พบปัญหาคือต้นไม้ตาย เจริญเติบโตได้ไม่ดี และมีพันธุ์ไม้ให้เลือกน้อยไม่แปลกใหม่ ทำให้ต้องเริ่มมองหาผู้เชี่ยวชาญมาแก้ปัญหาดังกล่าว โดยได้ปรึกษากับทางไบโอเทค ซึ่งมีความรู้และเชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์คุณลักษณะของพืช พบว่าพืชที่นำมาใช้งานในสวนแนวตั้งนั้นต้องมีความต้องการแสงและความชื้นในวัสดุปลูกเพื่อให้ใช้ในการเจริญเติบโตที่แตกต่างกัน
จึงเกิดเป็นข้อตกลงร่วมวิจัยในโครงการวิจัยนวัตกรรมการปลูกพืชแนวตั้งขึ้น
“ดร.เฉลิมพล เกิดมณี” หัวหน้าห้องปฏิบัติการสรีรวิทยาและชีวเคมีด้านพืช ไบโอเทค หัวหน้าโครงการดังกล่าว บอกว่า ได้รับโจทย์จากเอสซีจีที่ต้องการหาพันธุ์พืชที่มีลักษณะเด่นเพื่อสร้างความหลากหลายในการออกแบบและนวัตกรรมการดูแลระบบการปลูกที่ง่าย และสวยงามได้ในระยะยาวไบโอเทคจึงใช้เทคโน โลยีการตรวจวินิจฉัยพฤติ กรรมการเจริญของต้นพืชมาคัดเลือกพันธุ์พืชที่มีลักษณะเด่นสำหรับการปลูกพืชแนวตั้ง จำนวนมากกว่า 50 ชนิด และมีการวิเคราะห์การลดลงของน้ำในวัสดุปลูกชนิดต่าง ๆ เพื่อนำมาคำนวณความถี่และปริมาณในการให้น้ำแต่ละครั้ง
ด้าน “ดร.เกรียงไกร โมสาลียานนท์” นักวิจัยไบโอเทค อธิบายถึงงานวิจัยในโครงการนี้ว่า เป็นการศึกษาผลของความเข้มแสงและความชื้นในวัสดุปลูกต่อการเจริญเติบโตของพืชแนวตั้งที่มีคุณสมบัติเด่นด้านการใช้งานชนิดต่าง ๆ เพื่อให้สามารถคัดพันธุ์พืชที่เหมาะสมต่อสภาพแวดล้อมภายในและภายนอกอาคาร
มีการนำเครื่องมือทางวิทยา ศาสตร์ในห้องปฏิบัติการคือเครื่องวัดการสังเคราะห์แสงและการคายน้ำของพืชมาใช้ในการตรวจวัด ซึ่งสามารถทำได้ทั้งก่อนและหลังการปลูก ทำให้รู้สภาพของพืชไม่ต้องรอจนพืชใบเหลืองหรือเหี่ยวเฉา
ขณะเดียวกันข้อมูลของพืชที่ได้จากการศึกษาจะถูกนำไปวิเคราะห์หาความสัมพันธ์ระหว่างสภาพแวดล้อมและการเจริญเติบโตพืช รู้ว่าต้นไม้แบบนี้ต้องการแสงแค่ไหน น้ำมากน้อยอย่างไร
สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการออกแบบระบบการปลูก ให้สอดคล้องกับสภาพแสงและความชื้นในวัสดุปลูกที่แตกต่างกัน และสร้างระบบการดูแลรักษาที่ง่ายและสะดวกมากขึ้น
สำหรับสวนแนวตั้งของเอสซีจี มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องมาแล้ว 3 ปีมีลูกค้าที่ติดตั้งนวัตกรรมสวนแนวตั้งนี้แล้วหลายแห่งเช่นที่ บริษัทโตโยต้า บัสส์ สาขาราชพฤกษ์ และหมู่บ้านจัดสรรขนาดใหญ่
และงานวิจัยด้านต้นไม้ยังไม่หยุดแค่นี้ นักวิจัยบอกว่ายังมีการพัฒนาต่อเนื่องไปอีกทั้งด้านการปลูกบนสภาพแวดล้อมที่เป็นหลังคาหรือโรงรถ
และอนาคตยังมุ่งไปสู่การปรับปรุงพันธุ์ไม้ที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมต่าง ๆ อีกด้วย.
นาตยา คชินทร
nattayap.k@gmail.com
ที่มา: http://www.dailynews.co.th/it/284804
วิจัยต้นไม้สร้างนวัตกรรมสวนแนวตั้ง ในการปลูกพืชแนวตั้งแรก ๆ พบปัญหาคือต้นไม้ตาย เจริญเติบโตได้ไม่ดี และมีพันธุ์ไม้ให้เลือกน้อยไม่แปลกใหม่ ทำให้ต้องเริ่มมองหาผู้เชี่ยวชาญมาแก้ปัญหาดังกล่าว โดยได้ปรึกษากับทางไบโอเทค ซึ่งมีความรู้และเชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์คุณลักษณะของพืช
วันพุธที่ 3 ธันวาคม 2557 เวลา 3:19 น.
ปัญหาโลกร้อนผนวกกับไลฟ์สไตล์ชีวิตคนทำงานในเมืองที่เร่งรีบและมีพื้นที่สีเขียวลดน้อยลง ทำให้สวนแนวตั้งธุรกิจแนวใหม่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ
แต่การจะทำให้ต้นไม้เจริญเติบโตได้ในสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป ไม่เหมือนในธรรมชาตินั้น หลายคนคงไม่รู้ว่าจำเป็นต้องใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ที่ต้องมีทั้ง “ความสวย ทนทาน และดูแลรักษาง่าย”
ทำให้เกิดเป็น “นวัตกรรมสวนแนวตั้ง” ที่บริษัท เอสซีจี ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง จํากัด ร่วมกับศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) พัฒนาขึ้น
“ดร.พิศิษฐ์ เกษี” วิศวกรใหญ่ วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี ของเอสซีจี ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง บอกว่า เอสซีจีได้พัฒนาผลิตภัณฑ์สวนแนวตั้งขึ้น โดยเรียกว่า โมดูลาร์ กรีน ช่วยให้พื้นที่เล็ก ๆ ของบ้านหรืออาคารสำนักงานเป็นพื้นที่สีเขียว โดยติดตั้งง่ายและสะดวกในการดูแลรักษา ดร.พิศิษฐ์ บอกว่า ในการปลูกพืชแนวตั้งแรก ๆ พบปัญหาคือต้นไม้ตาย เจริญเติบโตได้ไม่ดี และมีพันธุ์ไม้ให้เลือกน้อยไม่แปลกใหม่ ทำให้ต้องเริ่มมองหาผู้เชี่ยวชาญมาแก้ปัญหาดังกล่าว โดยได้ปรึกษากับทางไบโอเทค ซึ่งมีความรู้และเชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์คุณลักษณะของพืช พบว่าพืชที่นำมาใช้งานในสวนแนวตั้งนั้นต้องมีความต้องการแสงและความชื้นในวัสดุปลูกเพื่อให้ใช้ในการเจริญเติบโตที่แตกต่างกัน
จึงเกิดเป็นข้อตกลงร่วมวิจัยในโครงการวิจัยนวัตกรรมการปลูกพืชแนวตั้งขึ้น
“ดร.เฉลิมพล เกิดมณี” หัวหน้าห้องปฏิบัติการสรีรวิทยาและชีวเคมีด้านพืช ไบโอเทค หัวหน้าโครงการดังกล่าว บอกว่า ได้รับโจทย์จากเอสซีจีที่ต้องการหาพันธุ์พืชที่มีลักษณะเด่นเพื่อสร้างความหลากหลายในการออกแบบและนวัตกรรมการดูแลระบบการปลูกที่ง่าย และสวยงามได้ในระยะยาวไบโอเทคจึงใช้เทคโน โลยีการตรวจวินิจฉัยพฤติ กรรมการเจริญของต้นพืชมาคัดเลือกพันธุ์พืชที่มีลักษณะเด่นสำหรับการปลูกพืชแนวตั้ง จำนวนมากกว่า 50 ชนิด และมีการวิเคราะห์การลดลงของน้ำในวัสดุปลูกชนิดต่าง ๆ เพื่อนำมาคำนวณความถี่และปริมาณในการให้น้ำแต่ละครั้ง
ด้าน “ดร.เกรียงไกร โมสาลียานนท์” นักวิจัยไบโอเทค อธิบายถึงงานวิจัยในโครงการนี้ว่า เป็นการศึกษาผลของความเข้มแสงและความชื้นในวัสดุปลูกต่อการเจริญเติบโตของพืชแนวตั้งที่มีคุณสมบัติเด่นด้านการใช้งานชนิดต่าง ๆ เพื่อให้สามารถคัดพันธุ์พืชที่เหมาะสมต่อสภาพแวดล้อมภายในและภายนอกอาคาร
มีการนำเครื่องมือทางวิทยา ศาสตร์ในห้องปฏิบัติการคือเครื่องวัดการสังเคราะห์แสงและการคายน้ำของพืชมาใช้ในการตรวจวัด ซึ่งสามารถทำได้ทั้งก่อนและหลังการปลูก ทำให้รู้สภาพของพืชไม่ต้องรอจนพืชใบเหลืองหรือเหี่ยวเฉา
ขณะเดียวกันข้อมูลของพืชที่ได้จากการศึกษาจะถูกนำไปวิเคราะห์หาความสัมพันธ์ระหว่างสภาพแวดล้อมและการเจริญเติบโตพืช รู้ว่าต้นไม้แบบนี้ต้องการแสงแค่ไหน น้ำมากน้อยอย่างไร
สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการออกแบบระบบการปลูก ให้สอดคล้องกับสภาพแสงและความชื้นในวัสดุปลูกที่แตกต่างกัน และสร้างระบบการดูแลรักษาที่ง่ายและสะดวกมากขึ้น
สำหรับสวนแนวตั้งของเอสซีจี มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องมาแล้ว 3 ปีมีลูกค้าที่ติดตั้งนวัตกรรมสวนแนวตั้งนี้แล้วหลายแห่งเช่นที่ บริษัทโตโยต้า บัสส์ สาขาราชพฤกษ์ และหมู่บ้านจัดสรรขนาดใหญ่
และงานวิจัยด้านต้นไม้ยังไม่หยุดแค่นี้ นักวิจัยบอกว่ายังมีการพัฒนาต่อเนื่องไปอีกทั้งด้านการปลูกบนสภาพแวดล้อมที่เป็นหลังคาหรือโรงรถ
และอนาคตยังมุ่งไปสู่การปรับปรุงพันธุ์ไม้ที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมต่าง ๆ อีกด้วย.
นาตยา คชินทร
nattayap.k@gmail.com
ที่มา: http://www.dailynews.co.th/it/284804
งานวิจัยชี้สวนแนวตั้งช่วยลดมลพิษบนท้องถนน
งานวิจัยชี้สวนแนวตั้งช่วยลดมลพิษบนท้องถนน
โดย Energy Saving วันที่ 19 กรกฎาคม 2555
|
นักวิทยาศาสตร์แนะว่าการสร้างสวนแนวตั้งในพื้นที่ใจกลางเมืองใหญ่ช่วยลดมลพิษทางอากาศได้ถึง 30 เปอร์เซ็นต์
นักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษ ระบุว่า ยิ่งมีแมกไม้ตามข้างถนนมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งช่วยฟอกอากาศในพื้นที่ที่มีมลพิษทางอากาศในปริมาณสูงมากเท่านั้น โดยพรรณไม้ที่ปลูกในเมืองและในเมืองใหญ่ช่วยลดก๊าซไนโตรเจนออกไซด์ และฝุ่นละออง ซึ่งเป็นอันตรายสุขภาพ
อนึ่ง ศาสตราจารย์ ร็อบ แมคเคนซี ผู้วิจัยร่วม กล่าวว่า นโยบายในการลดมลพิษทางอากาศในปัจจุบันเน้นการปฏิบัติจากบนลงล่าง (Top-down approach) เช่น เลิกใช้รถยนต์คันเก่า ติดตั้งเครื่องฟอกไอเสียเชิงเร่งปฏิกิริยา (Catalytic converter) เรียกจัดเก็บธรรมเนียมค่าใช้ถนนในพื้นที่ที่มีการจราจรหนาแน่น (Congestion charge) ซึ่งบางนโยบายข้างต้นไม่ได้ผลเป็นที่น่าพอใจนัก แต่จากการศึกษาพบว่าสวนแนวตั้งช่วยฟอกอากาศในบริเวณซอกตึกระฟ้าที่อากาศถ่ายเทไม่สะดวก (Street canyon) ได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้ งานวิจัยก่อนหน้านี้ได้แสดงให้เห็นว่าพื้นที่สีเขียวในเมืองช่วยลดมลพิษทางอากาศได้ประมาณ 5 เปอร์เซ็นต์ แต่งานวิจัยชิ้นนี้แสดงให้เห็นว่าการจัดสวนแนวตั้งในพื้นที่ซอกตึกสูงช่วยดูดซับมลพิษในอากาศได้สูงถึง 30 เปอร์เซ็นต์
นิโคลา เชทแฮม หัวหน้ากองวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมจากการขนส่งทางบก สำนักงานขนส่งแห่งกรุงลอนดอน (Transport for London: TfL) กล่าวว่า สำนักงานขนส่งฯ ได้สร้างสวนแนวตั้งแห่งใหม่เพื่อลดปัญหาผลพิษที่เกิดจากไอเสียรถยนต์
ทั้งนี้ ทีมนักวิจัยได้สรุปผลการวิจัยเกี่ยวกับประสิทธิภาพในการลดมลพิษของสวนแนวตั้งโดยใช้แบบจำลองคอมพิวเตอร์ที่แสดงให้เห็นถึงมลพิษที่สะสมอยู่บริเวณซอกตึก ทั้งนี้ทั้งนั้น แบบจำลองคอมพิวเตอร์ยังแสดงให้เห็นว่าแมกไม้ที่ปลูกไว้ริมถนนมีประสิทธิภาพในการช่วยกรองอากาศบนถนนที่มีปริมาณมลพิษเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และยังพบว่าไม้ยืนต้นที่ให้ร่มเงา (Canopy tree) ไม่ได้ช่วยดูดซับมลพิษที่ระดับผิวดินเลย
ทอม พูฮ์ ผู้วิจัยร่วมจากมหาวิทยาลัยแลนแคสเตอร์ กล่าวว่า อุปสรรคอย่างหนึ่งในการจัดสวนแนวตั้ง คือ แมกไม้ที่ปลูกต้องทนต่อสภาพอากาศ ซึ่งควรคำนึงถึงวิธีการและสถานที่จะปลูกพรรณไม้เหล่าด้วย และต้องแน่ใจว่าพรรณพืชที่ปลูกจะไม่เหี่ยวเฉา หรือมีศัตรูธรรมชาติจำพวกแมลงและโรคพืชคอยรบกวน
ผลการวิจัยดังกล่าวตีพิมพ์ในวารสาร เอนไวเรินเมนทอล ไซน์ แอนด์ เทคนอลเลอจี (Environmental Science and Technology)
|
การจัดสวนแนวต้ัง
การจัดสวนแนวต้ัง
ปัจจุบันด้วยข้อจำกัดของพื้นที่ หรือ รูปแบบการอยู่อาศัยของคนเมืองเปลี่ยนไปจากเดิมจากบ้านเดี่ยว เป็นทาวน์เฮาส์ หรือ คอนโดมิเนียม จึงทำให้แนวคิดการจัดสวนแนวตั้งได้รับความนิยมมากขึ้น เพราะมนุษย์ยังคงต้องการมีพื้นที่สีเขียวซึ่งจะทำให้รู้สึกผ่อนคลายจากภาระหน้าที่การทำงานหรือแม้แต่ในสถานที่ทำงาน “การจัดสวนแนวตั้ง” จึงได้เข้ามามีส่วนในการสร้างสรรค์สวนและเป็นทางเลือกในการจัดสวนมากขึ้น การจัดสวนแนวตั้งไม่ได้มีรูปแบบที่ตายตัวแต่ขึ้นอยู่กับการจัดสภาพต่างๆได้เหมาะสมไม่ว่าจะเป็นโครงสร้าง วัสดุปลูก การเลือกพรรณไม้ การดูแลรักษา ดังนั้นหากผู้ที่ต้องการจัดสวนทางเลือกนี้จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรู้และเข้าใจสภาพที่เหมาะสมกับสวนดังกล่าว พรรณไม้ที่ใช้จัดสวนแนวตั้งมีดังต่อไปนี้
1. กนกนารี เมื่อนำมาจัดสวนแนวตั้ง ควรปลูกอยู่ระดับกลางหรือล่างของแผงสวนเพื่อให้ได้รับแสงรำไรและความชื้นสูง
2. ก้ามปูหลุด เหมาะปลูกแซมกับพรรไม้ขนาดใหญ่ใบสีเขียวในสวนแนวตั้ง
3. เกล็ดปลาช่อน นิยมปลูกคลุมโคนพรรณไม้ขนาดใหญ่เพื่อปกปิดผิวดินหรือรอยต่อระหว่างแผงให้ดูสวยงามขึ้น
4. ไก่แดง ว่านไก่แดง ว่านไก่โต้ง วางตำแหน่งปลูกให้อยู่ในระดับกลางของแผงเพื่อให้ต้นได้รับแสงอย่างเพียงพอ วัสดุปลูกไม่แฉะ ต้นจะห้อยย้อยดูสวยงาม
5. ตานลาย นมเมียหิน เอื้องข้าวก่ำ ชอบวัสดุโปร่ง ต้องการแสงแดดรำไร
6. คาวตอง พลูคาว ปลูกเป็นไม้คลุมดินริมน้ำหรือปลูกเป็นไม้กระถาง กรณีปลูกบนแผงควรปลูกในระดับล่างซึ่งดินสะสมความชื้นไว้มาก แต่ต้องได้รับแสงแดดเพียงพอ
7. เคราฤาษี แขวนเคราฤาษีในบริเวณที่ได้รับแสงเต็มวัน มีลมพัดผ่าน ให้ปุ๋ยเกล็ดละลายน้ำเจือจางเดือนละครั้ง
8. โคลงเคลงเลื้อย ขยายพันธุ์ด้วยการปักชำกิ่ง ถ้าปลูกบริเวณร่มเกินไป ลำต้นจะยืดยาวและออกดอกน้อย ควรตัดแต่งกิ่งบ่อยๆ แล้วนำไปขยายพันธุ์
9. ซุ้มกระต่ายเขียว เศรษฐีเรือนแก้ว ให้ดินปลูกชุ่มชื้นเสมอ ถ้าอากาศแห้งแล้ง ปลายใบมักแห้งกรอบได้ง่าย ขยายพันธุ์ด้วยการแยกกอ แผ่นใบที่โค้งอ่อนลงจะช่วยสร้างเส้นสายที่ดูอ่อนพลิ้วมากขึ้น
10. ซุ้มกระต่ายด่าง เศรษฐีไซ่ง่อน ขยายพันธุ์ด้วยการแยกกอ นิยมปลูกคลุมดินหรือปลูกเป็นไม้กระถาง เมื่อนำมาจัดสวนแนวตั้งจะให้เส้นสายที่อ่อนช้อยและเพิ่มสีให้สวนดูสว่างขึ้น
11. ดาวลดา ไดโนซอรัส ไดโนเสาร์ ชอบดินร่วน แสงแดดรำไรถึงจัด โตเร็ว ขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ดแและปักกิ่งชำ
12. ดีปลี ขยายพันธุ์โดยการปักชำ เหมาะให้เลื้อยเกาะกำแพงหรือโครงสร้างที่ต้ังในบริเวณที่รับแสงน้อย
13. เดปใบรี ปลูกเป็นไม้กระถางแขวนหรือเลื้อยเกาะตามกิ่งก้านของไม้ใหญ่ ขยายพันธุ์โดยการปักชำ
14. เดปหัวใจล้านดวง ต้องการแสงรำไร ปลูกเป็นไม้กระถางแขวนหรือปลูกบนแผงสวนแนวตั้งในบริเวณที่ได้รับแสงรำไรและความชื้นสูง
15. ตีนตุ๊กแก ปลูกเป็นไม้เลื้อยเกาะผนังหรือประดับตามแนวรั้ว หรือแนวกำแพง ปัจจุบันมีตีนตุ๊กแกใบด่างนำเข้ามาปลูกเป็นไม้กระถาง ลักษณะใบเล็กกว่าชนิดแท้ มีแถบสีขาวตรงขอบใบ แผ่นใบบาง ขอบหยักเป็นคลื่น
16. ทิลแอนด์เซีย นำมาเกาะขอนไม้ ชอบแดดจัดถึงครึ่งวันเช้า ความชื้นในอากาศสูง น้ำปานกลาง อากาศถ่ายเทดี มักออกดอกให้ชมในช่วงฤดูหนาว ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ดและแยกหน่อ
17. นกกระทา ชอบดินร่วน แสงแดดรำไร น้ำปานกลาง ขยายพันธุ์ด้วยการปักชำกิ่ง หากได้รับแสงแดดจัดขอบใบจะไหม้ โตเร็ว ควรตัดแต่งยอดที่ยืดยาวออก จะช่วยให้สวนแนวตั้งสวยอยู่เสมอ
18. บีโกเนีย ปลูกในวัสดุที่อุ้มน้ำและระบายน้ำได้ดี เหมาะอากาศเย็น ควรได้รับปุ๋ยทุก 2 สัปดาห์ ขยายพันธุ์ด้วยการปักชำใบและลำต้น แยกหัว และเพาะเมล็ด ถ้าปลูกบนแผงสวนแนวตั้ง ในช่วงฤดูฝนควรหมั่นฉีดสารป้องกันกำจัดเชื้อราอยู่เสมอ เพื่อป้องกันโรคเน่า
19. ป็อปอาย ชอบแสงแดดจัดถึงรำไร อากาศเย็นกิ่งก้านจะมีสีแดง รดน้ำสม่ำเสมอเพื่อไม่ให้เหี่ยวเฉา ขยายพันธุ์ด้วยการปักชำ นิยมปลูกเป็นไม้ประดับมาแต่โบราณ เพราะเชื่อว่าเมื่อต้นออกดอกจะมีโชคลาภ
20. ปีกแมลงสาบแดง ขยายพันธุ์ด้วยการปักชำกิ่ง นิยมปลูกบนสวนแนวตั้ง เพราะลำต้นที่ทอดเลื้อยช่วยสร้างเส้นสายที่อ่อนช้อย
21. ปีกแมลงสาบใบแหลม ใบสีเขียวเทา มีลายสีน้ำตาลเข้มตามเส้นใบ เมื่อลำต้นยาว ควรตัดแต่งกิ่งบ้างเพื่อให้แตกใบใหม่เป็นพุ่มแล้วนำกิ่งที่ได้ไปขยายพันธุ์
22. เปเปอโรเมียใบป้าน ชอบดินร่วน แสงแดดเต็มวันถึงร่มรำไร น้ำปานกลาง ขยายพันธุ์ด้วยการปักชำยอด
23. ผกากรองเลื้อย ชอบดินร่วน แสงแดดเต็มวัน โตเร็ว ควรตัดแต่งเป็นระยะ ขยายพันธุ์ด้วยการปักชำกิ่ง เมื่อนำมาจัดสวนแนวตั้งควรเลือกผกากรองที่เจริญเติบโตช้า เช่น ผกากรองเลื้อยสีม่วง
24. พรมกำมะหยี่ ชอบแสงแดดครึ่งวันเช้าถึงรำไร ความชื้นในอากาศสูง ขยายพันธุ์ด้วยการปักชำไหล ปักชำยอด และเพาะเมล็ด ชอบบริเวณที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก ควรปลูกระดับกลางของแผงสวนแนวตั้งที่ไม่แฉะมากนัก จะช่วยให้ต้นไม่เน่าตาย
25. พรมออสเตรเลีย ชอบดินร่วนปนทรายผสมใบไม้ผุ แสงแดดรำไร ขยายพันธุ์ด้วยการปักชำกิ่ง ควรปลูกอยู่ระดับกลางหรือล่างของแผงสวนแนวตั้งจะได้รับน้ำและแสงเหมาะสมกับการเจริญเติบโต
26. พลูฉลุ ชอบแสงรำไร เลื้อยง่ายและทนทาน ขยายพันธุ์ด้วยการปักชำยอด เหมาะปลูกระดับล่างของสวนแนวตั้งที่ชุ่มชื้น จะเติบโตได้ดี
27. พลูด่าง เติบโตได้ในดินทุกชนิดหรือปลูกในน้ำ ชอบแสงรำไร ขยายพันธุ์ด้วยการปักชำยอด ปัจจุบันมีพันธุ์ใบด่างเรียกว่าพลูราชินีหินอ่อน มีลายด่างสีขาวมากกว่าพลูด่างปกติ
28. พลูนางฟ้า นางฟ้าจำแลง ขยายพันธุ์ด้วยการปักชำกิ่ง โดยตัดเป็นข้อให้มีใบติดอยู่อย่างน้อย 2 ใบ แล้วปักชำในขุยมะพร้าวที่ชุ่มชื้น
29. พลูลงยา ชอบดินร่วนระบายน้ำดี โตช้า แสงแดดรำไร ขยายพันธุ์ด้วยการปักชำกิ่ง
30. ฟิโลเดนดรอนสีทอง ปลูกลงกระถางให้เกาะพันเหล็กเพื่อประดับในที่ร่มรำไร ไม่ควรถูกแสงแดดจัดตรงๆ เพราะจะทำให้ใบไหม้ หากปลูกในสวนแนวตั้ง ควรปลูกในระดับล่างที่ชุ่มชื้น เติบโตได้ดี
31. เฟินข้าหลวงหลังลาย ชอบแสงแดดรำไร ความชื้นสูง ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะสปอร์
32. เฟินเงิน ชอบวัสดุปลูกร่วนโปร่ง ความชื้นในอากาศสูง ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะสปอร์และแยกกอ เหมาะปลูกเป็นไม้กระถางหรือปลูกประดับในที่ร่มชื้นจะทำให้บรรยากาศของสวนเมืองร้อนได้ดี เมื่อนำมาใช้จัดสวนแนวตั้ง ควรปลูกให้อยู่ระดับกลางของสวนที่ไม่แฉะมากนัก ใต้ร่มเงาของพืชชนิดอื่น
สวนแนวตั้งไฮโซ
สวนแนวตั้งไฮโซ
Last Updated on Friday, 28 November 2014 14:39
เมื่อต้นเดือน "แม่ทองต่อ" ได้แนะนำให้รู้จักการจัดสวนแนวตั้งด้วยบล็อกปลูกต้นไม้ ผลงานของทีมวิจัยคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลเกษตรศาสตร์
มาวันนี้จะขอแนะนำสวนแนวตั้งตอบโจทย์คนเมืองในอีกรูปแบบเป็นนวัตกรรมใหม่ของ บริษัท เอสซีจี ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง จำกัด และ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) ที่ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์สวนแนวตั้งภายใต้ชื่อการค้า "Modular Green" ไม่ได้เป็นบล็อก แต่เป็นแผงเหล็กกันสนิมกาวาไนซ์ ห้อยด้วยกระถางพลาสติกปลูกต้นไม้ มีผ้าอุ้มน้ำพิเศษปกคลุม มีระบบน้ำหยดคอยรดน้ำวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น ครั้งละ 10-15 นาที ให้เหมาะสมกับพืชที่เอามากปลูก ต้องการน้ำน้อยหรือมาก พร้อมมีถาดรองรับน้ำไประบายทิ้ง ป้องกันน้ำหยดเลอะเทอะปลูกในบ้าน ในคอนโดฯ ไม่ต้องกังวลความสกปรก

เป็นแผงปลูกต้นไม้แนวตั้ง สามารถติดตั้งกับรั้วผนังอาคาร จะให้สูงเท่าไรก็ได้ แต่ถ้าจะทำแบบไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องถึงขั้นลงเสาเข็มฐานรากเสริม....เขาแนะนำให้ทำสูงแค่ 3 เมตรก็พอ
ส่วนเรื่องราคานั้น ไม่เบา ตร.ม.ละ 12,000-14,000 บาท พื้นที่เล็กราคาสูง พื้นที่ใหญ่ราคาต่ำ และถ้าทำสูงเกิน 3 เมตร หรือต้องมีการลงฐานรากจะต้องควักจ่ายเพิ่มอีกต่างหาก
ที่บอกว่าเป็นสวนแนวตั้งไฮโซ ไม่ใช่แค่เรื่องราคา แต่เพราะขอขอแค่คุณมีเงิน ทุกอย่างจะเป็นของคุณทันที...ทุกอย่างจะถูกนำมาติดตั้งให้เสร็จสรรพเราเพียงแค่ยืนมองชี้นิ้วอย่างเดียว แม้แต่ต้นไม้เขาก็ยังเอามาปลูกให้ มีให้เลือกถึง 50 ชนิด ทั้งที่ปลูกในร่มและกลางแจ้ง
และไม่ใช่พันธุ์ไม้ธรรมดา แต่เป็นพันธุ์ไม้ไบโอเทคได้วิจัยและพัฒนาการแล้วว่าเหมาะสมในการปลูกพืชแนวตั้ง ฉะนั้นเราไม่ต้องวุ่นวายไปวิ่งหามาปลูกเอง เพียงแค่ชี้นิ้วสั่งตามรูป ทุกอย่างจะสมใจคนไฮโซ
สนใจติดต่อสอบถามไปได้ที่ 0-2586-6822 เฉพาะเวลาทำการ ส่วนใครไม่อยากจะไฮโซ ชอบชีวิตวุ่นวาย ไปเลือกซื้อต้นไม้มาปลูกเอง ติดตั้งเองทำด้วยมือตัวเอง เขาก็มีขาย สนนราคาจะถูกหน่อย ตร.ม.ละ 6,800 บาท ชอบอย่างไหน ตัดสินใจเลือกกันเองค้า
แหล่งที่มา : สวนแนวตั้งไฮโซ. ไทยรัฐ (29 พฤศจิกายน 2557): 7.
สวนแนวตั้งในฝันของคนรักธรรมชาติ
สวนแนวตั้งในฝันของคนรักธรรมชาติ
![]() | ||||||||||||||||||||||
|
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)